วิเคราะห์บอล !! แดงเดือด พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ แมนยู 17 ธ.ค.66

ผลบอลสด

ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คู่ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ แดงเดือด ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ยูไนเต็ด

ปรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แดงเดือด
วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566
ลิเวอร์พูล -แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : แอนฟิลด์ เวลาคิกออฟ : 23.30 น.
ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสิน VAR : จอห์น บรู๊คส์

ผลบอลสด

ผลงานการพบกันฤดูกาลที่ผ่านมา
5 มี.ค. 2566 ลิเวอร์พูล 7-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
22 ส.ค. 2565 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
12 ก.ค. 2565 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 ลิเวอร์พูล (เดอะแมตช์ แบงค็อกเซ็นจูรี่คัพ)

ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
14 ธ.ค.2566 แพ้ อูนิอง แซงต์-ชิลอยส์ 1-2 (เยือน) ยูโรป้า ลีก
9 ธ.ค.2566 ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
6 ธ.ค.2566 ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
3 ธ.ค.2566 ชนะ ฟูแล่ม 4-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
30 พ.ย.2566 ชนะ ลาสค์ ลินซ์ 4-0 (เหย้า) ยูโรป้า ลีก

สภาพทีมลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ลิเวอร์พูล ที่ในเกม ยูโรป้า ลีก เข้ารอบไปแล้วทำให้ส่งเด็กลงก่อนแพ้ อูนิอง แซงต์-ชิลอยส์ 1-2 ส่วนเกมในลีก สัปดาห์ที่แล้วบุกไปชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 ทำให้เตะไป 16 นัดมี 37 แต้มนำเป็นจ่าฝูง นัดนี้จะกลับมาใช้ผู้เล่นตัวจริงหลังจากเกมยุโรป โรเตชั่นผู้เล่น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ และหลุยส์ ดิอาซ

จะกลับมาล่าตาข่ายทั้งหมด แต่ยังคงไม่มี โฌแอล มาติป ที่บาดเจ็บเอ็นไขว้หน้ามาจากพลิกชนะ ฟูแล่ม 4-3 รวมทั้ง ดีโอโก้ โชต้า, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ สเตฟาน บายเซติช ก็ยังอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ เช่นเดียวกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ น่าจะได้นั่งดูเพื่อนเล่นข้างสนามอีกครั้ง ซึ่งทำให้แดนกลางจะเป็นหน้าที่ของ วาตารุ เอ็นโด เชื่อมเกมร่วมกับ โดมินิค โซบอสไล และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก โดยมี เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค สวมปลอกแขนกัปตันทีมคุมเกมรับ

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์- เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, คอสตาส ซิมิกาส – โดมินิค โซบอสไล, วาตารุ เอ็นโด, ไรอัน กราเฟนแบร์ก – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ

แมนฯ ยูไนเต็ด
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
12 ธ.ค.2566 แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-1 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
9 ธ.ค.2566 แพ้ บอร์นมัธ 0-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
6 ธ.ค.2566 ชนะ เชลซี 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
3 ธ.ค.2566 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 (เยือน)พรีเมียร์ลีก
29 พ.ย.2566 เสมอ กาลาตาซาราย 3-3 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

สภาพแมนฯ ยูไนเต็ด
เอริก เทน ฮาก นายใหญ่ชาวดัตช์ เพิ่งพาทีมตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังเปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ด แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-1 ส่วนเกมลีกล่าสุดเปิดบ้านแพ้ บอร์นมัธ มาแบบหมดรูป 0-3 ทำให้เตะ 16 นัดมี 26 แต้ม อยู่ในอันดับ 6 โดยเกมนี้ยังคงเจอปัญหาทั้งตัวเจ็บ และแบน เป็นห่างว่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมติดโทษแบน ส่วน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ ลุค ชอว์ เจ็บจากเกมแพ้ “เสือใต้” แต่ในรายของ ชอว์ ฟิตกลับมาทันพร้อมยืนแบ๊กซ้าย ในรายของ ไทเรลล์ มาลาเซีย, คริสเตียน เอริคเซ่น และ เมสัน เมาท์ เจ็บก่อนหน้านี้แล้ว ด้่าน กาเซมีโร่, ลิซานโดร มาร์ตีเนซ และอาหมัด ดิยัลโล่ แม้กลับมาซ้อมได้แล้วแต่ยังไม่น่าฟิตทัน ขณะที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยังป่วย ส่วน เจดอน ซานโช่ ถูกดองยาว ในรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด คาดว่าจะสลัดอาการป่วยลงล่าตาข่ายได้ แดนกลาง ฮานนิบาล เมจบรี้ ดาวรุ่งลุ้นโอกาสสตาร์ตเช่นกัน

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-3-3) : อ็องเดร โอนาน่า – อาร่อน วาน-บิสซาก้า, จอนนี่ อีแวนส์, ราฟาแอล วาราน, ลุค ชอว์ – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, โซฟียาน อัมราบัต, ค็อบบี้ ไมนู – อันโตนี่, ราสมุส ฮอยลุนด์, มาร์คัส แรชฟอร์ด

ความน่าจะเป็นของเกม
เกมล่าสุดเจอกัน ที่นี่ เมื่อฤดูกาลก่อน ในเดือนมีนาคม ลิเวอร์พูล อัดไป 7-0 รวมไปถึงเกมนี้ “หงส์แดง” ตัวหลักได้พักจากเกมยูโรป้า ลีก ทางฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเยือนแบบสภาพทีมโคม่าจริงๆ ผู้เล่นบาดเจ็บตั้งแต่หลังยันหน้า ทำให้เป็นปัจจัยสุ่มเสี่ยงในการยืนระยะ เกมนี้จะเป็น ลิเวอร์พูล ที่เหนือกว่าโดยธรรมชาติเป็นฝ่ายบุกกดใส่ เล่นตามเสียงเชียร์อยู่แล้ว และหากมาได้ประตู ปลดล็อกเร็ว โอกาสที่ลูกทีมของ เอริก เทน ฮาก จะโดนถล่มซ้ำรอยเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา เป็นไปได้เหมือนกัน แต่สกอร์คงไม่ถึงขึ้นขาดลอยแบบนั้น

สกอร์ที่คาด
ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0

เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
– คู่นี้พบกันมาแล้ว 240 นัดในทุกรายการ ลิเวอร์พูล ชนะ 81 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 91 นัด เสมอ 68 นัด
– พบกันมาแล้วในพรีเมียร์ลีก 62 ครั้ง ลิเวอร์พูลชนะ 19 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชนะ 29 ครั้ง เสมอ 14 ครั้ง
– นัดนี้ถือเป็นการพบกันในลีกครั้งที่ 181 ซึ่งผลการแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมที่พบมากที่สุดคือลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0 (ซึ่งเกิดขึ้นถึง 20 ครั้ง)
– พบกัน 10 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล แพ้เพียงนัดเดียว (ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 1)

– ลิเวอร์พูลไม่แพ้แมนฯ ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีก เกมเหย้า 7 นัดหลังสุด (ชนะ 4 เสมอ 3) นับตั้งแต่ที่แพ้ 1-0 เมื่อมกราคมปี 2016 ซึ่งถือเป็นสถิติไร้พ่ายที่ยาวนานที่สุดอันดับสอง รองจากปี 1970 ถึง 1979 ที่ไร้พ่ายเกมเหย้าถึง 9 นัด
-ลิเวอร์พูลชนะ 4 จาก 5 เกมหลังที่พบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมลีก ซึ่ง 4 นัดที่ชนะนั้นทำประตูได้อย่างน้อย 4 ประตู
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเยือน แอนฟิลด์ 8 นัดหลัง ทั้งบอลลีก และบอลถ้วย ไม่ชนะที่ แอนฟิลด์ (เสมอ 3 แพ้ 5)- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติชนะ 2 ครั้งใน 14 นัดหลังสุดที่พบกับลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 2 เสมอ 6 แพ้ 6) โดยการแพ้ครั้งล่าสุดคือเกมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ที่บุกมาแพ้ที่ แอนฟิลด์ ด้วยสกอร์ 7-0
-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 4 จาก 18 เกมที่พบกับลิเวอร์พูลในยุคที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทีม นอกนั้นเป็นการ (เสมอ 7 แพ้ 7)
-ทีมของ เอริก เทน ฮาก ไม่เสมอเลยในเกมลีกสูงสุด 23 นัดหลัง ซึ่งถือเป็นสถิติของสโมสร
-โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ทำไป 12 ประตูจากการลงสนาม 12 นัดในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งในลีกและบอลถ้วย อี่กทั้งยังทำประตูได้ที่เจอกัน 6 นัดหลังสุด
-โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ทำประตู ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 10 ประตู เท่ากับสถิติของอลัน เชียเรอร์ ที่เคยทำไว้

ขอบคุณแหล่งที่มา :www.pptvhd36.com
supperlotto-th.co : ผลบอลสด ไฮไลท์ และข่าวบอลอัปเดตทุกวัน

เล่นบาคาร่า ผ่านเว็บตรงคาสิโนออนไลน์ มีความน่าเชื่อถือและมั่นคงปลอดภัยสูง

โปรโมชั่นดี เครดิตฟรีอีกเพียบ เล่นง่าย ได้จริง

บาคาร่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *